กีฬาสุดฮิตที่ทำให้ฟิต

กีฬาสุดฮิตที่ทำให้ฟิต & เฟิร์ม

กีฬาสุดฮิตที่ทำให้ฟิต & เฟิร์ม

1. ว่ายน้ำ เป็นกีฬายอดฮิต เสริมสร้างกระชับให้ทุกสัดส่วนของเราเลยทีเดียว แถมไม่ต้องไปตากแดดให้ผิวพรรณต้องคล้ำเป็นทางม้าลายอีกด้วยคะ แต่ก็ต้องระวังสำหรับคนที่ว่ายน้ำไม่แข็งไม่ควรว่ายคนเดียว ยิ่งไปว่ายน้ำตามแม่น้ำลำธารหรือทะเลยิ่งต้องระมัดระวังเป็นพิเศษคะ 
   
2. กระโดดเชือก เป็นกีฬาที่เล่นกันมาแต่เด็กเลยใช่ไหมคะ ที่มีความเชื่อกันว่ากระโดดเชือกบ่อยๆ จะทำให้สูงได้เร็วขึ้น 
   
3. ปั่นจักรยาน เป็นกีฬาอีกอย่างที่นิยมเล่นกันมากเลยทีเดียวคะ ไม่ว่าจะปั่นแบบระยะใกล้หรือปั่นแบบมาราธอนก็กระชับได้ดี เหมือนได้ออกกำลังไปด้วยท่องเที่ยวไปด้วย จะเน้นกระชับขาเป็นหลัก โดยเฉพาะต้นขาด้านใน 
   
4. โยคะ นับเป็นกีฬาที่สาวๆ หลายคนกำลังปลื้มเป็นพิเศษ ซึ่งจะมีทั้งโยคะร้อนและเย็น โยคะแบบร้อนจะช่วยให้ร่างกายของเรายืดหยุ่นได้ดีกว่า และได้ขับของเสียออกทางผิวหนังด้วยคะ ส่วนแบบเย็นดีตรงที่เรารู้สึกเหนื่อยน้อยกว่าทำให้ออกได้นานกว่า จึงเกิดการเผาผลาญได้มากกว่าคะ สล็อตโจ๊กเกอร์
   
5. ซิทอัพ เป็นการบริหารส่วนหน้าท้องและส่วนล่าง วิธีการคือให้นอนท่าหลังตรงและงอหัวเข่าขึ้น ควรค้างท่าไว้ 3 วินาทีหรือนานกว่านั้นก็ได้ ยิ่งนานมากก็ยิ่งทำให้ได้ผลดี แต่อย่าหักโหมนะคะเดี๋ยวจะกลายเป็นเจ็บหน้าท้องแทนได้ 
   
6. วิ่ง บางคนมักคิดว่าการกระชับต้นขาด้วยการวิ่งจะทำให้ขาเป็นกล้ามไม่สวยงาม เป็นความคิดที่ผิดนะคะ โครงสร้างของผู้หญิงต่างจากผู้ชาย เรียวขาสวยๆ จะไม่มีกล้ามเนื้อขึ้นมาเป็นก้อนๆ แน่นอน แต่ต้องวิ่งอย่างต่อเนื่อง ไม่ใช่วิ่งๆ หยุดๆ 
   
7. เต้นแอโรบิก ทำให้ร่างกายกระชับทุกสัดส่วนทีเดียว แต่จะเน้นที่ส่วนไหนเป็นหลักนั้นก็ขึ้นอยู่กับท่าต่างๆ ที่เราเลือกใช้นั่นเองคะ 
   
8. วิดพื้น สำหรับใครที่อยากจะกระชับส่วนกล้ามเนื้อหน้าอกและหัวไหล่ วิธีนี้ไม่ยาก แค่คว่ำตัวเองให้หัวเข่าแตะที่พื้น ลดตัวลงให้หน้าอกค่อยๆ แตะพื้น แล้วยกตัวขึ้น ทำช้าๆ ไม่ต้องรีบ 

ไม่ว่าจะเป็นกีฬาประเภทไหนก็ต้องหมั่นออกกำลังกายเป็นประจำอย่างต่อเนื่อง และคุมความอยากด้วยคะ ความฟิตและเฟิร์มของรูปร่างจะได้ไม่เป็นแค่ความฝันแน่นอนคะ 

ขอดีของการวิ่งตอนเช้า รับประโยชน์กันเต็มๆ

การวิ่งออกกำลังกายส่วนใหญ่แล้วเราก็มักจะวิ่งกันตอนเย็นหลังเลิกงาน เพราะดูเหมือนจะเป็นช่วงเวลาที่สะดวกที่สุดใช่ไหมคะ แต่หากใครยังไม่เคยลองวิ่งลดน้ำหนัก หรือวิ่งออกกำลังกายตอนเช้าดูบ้าง ลองมาดูประโยชน์ของการวิ่ง ตอนเช้ากันดีกว่า เผื่อบางทีอาจมีคนเปลี่ยนใจตื่นแต่เช้ามาวิ่งออกกำลังกายกันบ้างเนอะ

1. ปลุกความสดชื่นให้ร่างกาย
   การวิ่งตอนเช้าจะทำให้ร่างกายรู้สึกกระปรี้กระเปร่ามากขึ้น และตื่นตัวพร้อมสำหรับการเริ่มต้นวันใหม่ เนื่องจากการออกกำลังกายจะช่วยกระตุ้นให้ระบบต่าง ๆ ทำงานได้ดีขึ้น แถมยังช่วยให้ร่างกายหลั่งฮอร์โมนเอ็นดอร์ฟิน ซึ่งเป็นสารที่ทำให้ร่างกายรู้สึกสดชื่นออกมาด้วย
   
2. ช่วยลดน้ำหนักได้เต็มประสิทธิภาพมากขึ้น
   การออกกำลังกายด้วยการวิ่งในตอนเช้า ไม่เพียงแต่จะช่วยให้ร่างกายตื่นตัวและรู้สึกกระปรี้กระเปร่าเท่านั้น แต่ยังช่วยกระตุ้นการทำงานของระบบเผาผลาญของร่างกายให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ทำให้ร่างกายสามารถเผาผลาญแคลอรีได้เพิ่มขึ้นต่อเนื่องไปได้ทั้งวัน ส่งเสริมให้การลดน้ำหนักเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้นไปในตัว
   
3. ลดระดับความดันโลหิต
   ผลการวิจัยของ Dr.Scott Collier Appalachian State University พบว่า การวิ่งในตอนเช้าจะช่วยลดความดันโลหิตได้ โดยอ้างจากผลการทดลองให้อาสาสมัคร 3 กลุ่ม ออกกำลังกายด้วยการวิ่งในเวลา 07.00 น., 13.00 น. และกลุ่มสุดท้ายวิ่งตอน 19.00 น. ซึ่งพบว่า กลุ่มอาสาสมัครที่วิ่งตอนเช้าจะมีระดับความดันโลหิตตลอดทั้งวันลดลงโดยเฉลี่ย 10% และลดลงราว 25% ในช่วงก่อนเข้านอน ดังนั้นหากคุณเป็นอีกคนที่มีปัญหาความดันโลหิตสูง การวิ่งตอนเช้าเป็นประจำทุกวันก็น่าจะดีต่อสุขภาพของคุณมาก ๆ เลยทีเดียว เล่นบาคาร่าออนไลน์ได้ที่ sa
   
4. ลดความเครียด
   นักวิ่งทุกคนรู้ดีว่าการวิ่งช่วยสร้างอารมณ์ดีให้เราได้ หรืออย่างน้อย ๆ ก็ช่วยให้ลืมความเครียดไปได้สักระยะหนึ่ง ซึ่งก็สอดคล้องกับคำแนะนำของเทรนเนอร์ Christian Finn ที่บอกว่า หากอยากหลุดพ้นจากความเครียดก็ลองออกกำลังกายด้วยการวิ่งตอนเช้าเพื่อแก้ปัญหาโลกแตกนี้ดูสิ 
   
5. แก้อาการเมาค้างได้ !
   แม้การวิ่งในตอนเช้าจะเป็นสิ่งสุดท้ายที่คนเมาค้างอยากจะทำ ทว่าหากคุณสตรองพอจะลุกมาสวมรองเท้าและออกวิ่งเรียกเหงื่อสักหน่อย ก็เชื่อเถอะว่าอาการเมาค้างที่อึน ๆ อยู่จะบรรเทาเบาบางลงจนหายเป็นปลิดทิ้ง เพราะร่างกายจะขับแอลกอฮอล์มาพร้อมกับเหงื่อ ส่วนการไหลเวียนของเลือดที่คล่องตัวขึ้นก็จะช่วยลำเลียงเอาแอลกอฮอล์ที่ตกค้างในร่างกายออกมาพร้อมกับการขับถ่าย ดีท็อกซ์ความเมาออกไปให้คุณรู้สึกสดชื่นเหมือนไม่ได้ดื่มหนักมาก่อนเลย
   
6. วางแผนชีวิตได้ดีขึ้น
   การออกกำลังกายด้วยการวิ่งสร้างสมาธิให้กับเราได้อย่างมากมาย อีกทั้งการได้วิ่งไปเรื่อย ๆ ยังช่วยให้สมองเราเคลียร์พอที่จะวางโปรแกรมชีวิตในแต่ละขั้น โดยเฉพาะหากวิ่งตอนเช้า คุณจะมีทั้งเวลา พลังกาย และพลังสมองในการจัดการตารางชีวิตของตัวเองอย่างเหลือเฟือเลยทีเดียว
   
7. เปลี่ยนนิสัยให้เป็นคนตื่นเช้า
   Dr.James Mojica นักจิตวิทยาบอกไว้ว่า หากสามารถตื่นเช้ามาวิ่งออกกำลังกายเป็นสิ่งแรกของวันได้สัก 4 วันต่อสัปดาห์ นาฬิกาชีวิตของเราจะค่อย ๆ ปรับตัวกับการตื่นเช้าไปทีละนิดละหน่อย จนในที่สุดก็เปลี่ยนนิสัยจากคนนอนขี้เซาให้เป็นคนนอนตื่นเช้าได้โดยไม่ต้องอาศัยนาฬิกาปลุกเลยสักนิด JOKER SLOT
   อย่างไรก็ดี หากต้องการวิ่งออกกำลังกายในช่วงเวลาเช้า เราก็มีข้อควรปฏิบัติในการวิ่งตอนเช้าให้ได้สุขภาพดีมาฝากกันตามนี้ด้วย 
   
   – ควรจะรับประทานอาหารก่อนวิ่งอย่างน้อย 2-3 ชั่วโมง เพื่อให้ร่างกายมีพลังงานเพียงพอ
   
   – ควรอบอุ่นร่างกายให้นานกว่าการวิ่งออกกำลังกายในช่วงเวลาอื่น ๆ อย่างน้อย 10-15 นาที
   
   – ไม่ควรรีบรับประทานอาหารหรือดื่มน้ำทันทีหลังจากออกกำลังกายหนัก เพราะอาจจะทำให้เกิดอาการหายใจไม่ทัน หรือจุกได้ 
   
   – ควรพักผ่อนให้เพียงพอ เพื่อหลีกเลี่ยงความอ่อนล้าในระหว่างวัน
   
   – ในกรณีที่ป่วย ควรหลีกเลี่ยงการออกกำลังกายไม่ว่าจะเป็นการวิ่งหรือการออกกำลังกายใด ๆ เพราะอาจจะทำให้หมดแรง และหายป่วยช้าลงได้นะคะ

ข้อระวังสำหรับ คนชอบออกกำลังกายหน้าร้อน

ความพร้อมก่อนการออกกำลังกาย

คนเราเกิดมาจนถึงอายุ 25 ปีนั้น ร่างกายก็ยังคงความแข็งแรงอยู่ อย่างที่เราๆ ชอบพูดกันว่ายังฟิตปั๋งอยู่นั่นเอง แต่พอถึงวัย 30 ปีแล้ว ความฟิตของร่างกายก็จะเริ่มเสื่อมลงประมาณปีละ 2 เปอร์เซ็นต์เลยทีเดียว แต่ถ้าคนที่ออกกำลังกายเป็นประจำ ร่างกายก็จะชะลอความเสื่อมลงน้อยกว่าคนที่ไม่ค่อยออกกำลังกาย

เมื่อเราคิดได้ว่าควรจะต้องออกกำลังกายกันแล้ว สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ เราจะต้องคำนึงถึงความพร้อมของร่างกายตัวเองด้วย ถ้าหักโหมจนเกินไป ก็อาจจะมีผลเสียมากกว่าผลดีได้ เพราะฉะนั้นการตรวจร่างกายเพื่อรับรู้ประสิทธิภาพของร่างกายตัวเองจึงเป็นสิ่งที่เราควรทำที่สุด JOKER GAMING

ทำไมเราจะต้องทดสอบสมรรถภาพทางกายด้วยล่ะ?

การทดสอบสมรรถภาพทางกายจะช่วยตรวจสอบความพร้อมก่อนออกกำลังกาย และยังสามารถบ่งบอกถึงความสมบูรณ์แข็งแรงของร่างกายเราได้ด้วย ซึ่งมีวิธีขั้นตอนที่ไม่ได้ยุ่งยากเลย ดังนี้ค่ะ

1.ซักประวัติคนในครอบครัว ว่าเคยมีใครเป็นเบาหวาน อัมพฤกษ์ อัมพาต หรือโรคหัวใจหรือไม่

2.ชั่งน้ำหนัก วัดความดันโลหิต และตรวจจับชีพจรโดยวัดชีพจรขณะพักจะเป็นตัวบอกถึงสมรรถภาพการทำงานของหัวใจของเราได้อย่างคร่าวๆ ซึ่งถ้าหากร่างกายยังอยู่ในระหว่างการออกกำลังกาย ชีพจรจะเป็นตัวแสดงถึงสมรรถภาพการทำงานของหัวใจและเป็นตัวกำหนดให้เพิ่มหรือลด ความหนักเบาต่อการออกกำลังกายได้ ขึ้นอยู่กับเพศ วัย อายุ และความสมบูรณ์ของร่างกายนั่นเอง

3.วัดความจุปอด จะเป็นการวัดประสิทธิภาพการทำงานของปอด ด้วยการสูดอากาศเข้าเต็มปอด แล้วเป่าออกมาอย่างเต็มที่ผ่านอุปกรณ์เครื่องมือทดสอบ จะทำให้ทราบถึงปริมาณความจุอากาศในปอด ซึ่งความจุนี้จะมีผลต่อการออกกำลังกายหรือเล่นกีฬาที่ใช้ระยะเวลาติดต่อกัน JOKER

4.ทดสอบความแข็งแรงของกล้ามเนื้อแขนและมือ ด้วยการวัดแรงบีบมือ วิธีนี้จะทำให้เราทราบถึงความแข็งแรงของกล้ามเนื้อบริเวณแขนและมือ ซึ่งถือว่าเป็นส่วนที่จะต้องใช้งานหรือออกแรงอยู่เสมอในการทำกิจกรรมต่างๆ ในชีวิตประจำวัน  ซึ่งการทดสอบจะทำได้โดยออกแรงบีบที่เครื่องมือซึ่งจะปรากฏผลเป็นค่าของตัวเลขให้เราทราบค่ะ

5.วัดความอ่อนของตัว จะเป็นการวัดขีดความสามารถของร่างกายในการเคลื่อนไหวของข้อต่อและกล้ามเนื้อ หรือแม้กระทั่งการเหยียดของเอ็นยืดของข้อต่างๆ ว่าสามารถเคลื่อนไหวและยืดเหยียดได้เต็มมุมพิกัดของข้อต่อมากน้อยแค่ไหนนั่นเอง

6.วัดสรรถภาพการใช้ออกซิเจน เป็นการวัดสมรรถภาพของหัวใจและการไหลเวียนโลหิตโดยใช้จักรยานมาวัดการทำงานของหัวใจในการสูบฉีดเลือดไปเลี้ยงกล้ามเนื้อมัดใหญ่ ๆ ของร่างกาย ซึ่งเป็นขั้นตอนที่สำคัญที่สุดในการทดสอบสมรรถภาพทางกายค่ะ

เพราะฉะนั้น ก่อนการออกำลังกายทุกครั้ง หากเราได้ทำการทดสอบความพร้อมของร่างกายก่อน ก็จะทำให้เรารู้ลิมิตว่า ร่างกายของเราสามารถทนกับความเหนื่อยได้นานแค่ไหนถึงจะไม่เป็นอันตราย อย่าคิดแต่เพียงว่าการทดสอบสมรรถภาพเป็นอะไรที่ไร้สาระและเสียเวลา เพราะไม่อย่างนั้น ผลลัพท์ที่ได้จากการขาดความเอาใจใส่ก็อาจจะทำให้เราเสียใจในภายหลังได้

ติดตามเรื่องราวใหม่ๆได้ที่: pgslotgame , live22 , slotxo