วิธีแก้ขาลาย น้ำเหลืองไม่ดี

วิธีแก้ขาลาย น้ำเหลืองไม่ดี

วิธีแก้ขาลาย น้ำเหลืองไม่ดี ขาลาย เกิดจากรอยหรือจุดด่างดำต่าง ๆ ที่ปรากฏขึ้นตามขา ซึ่งจุดและรอยดังกล่าวอาจเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ เช่น

  • ยุงหรือแมลงกัดต่อย ตุ่มจากยุงหรือแมลงบางชนิดกัดต่อยอาจทำให้รู้สึกคันและระคายเคือง เมื่อเริ่มเกาก็อาจทำให้ตุ่มนั้นอักเสบจนสีผิวบริเวณดังกล่าวกลายเป็นจุดหรือรอยคล้ำได้
  • สิว มักปรากฏบนใบหน้าและแผ่นหลัง แต่ก็อาจเกิดขึ้นได้ทุกที่บนผิวหนังที่มีต่อมผลิตน้ำมันอยู่ รวมถึงบริเวณขาด้วย ซึ่งหากไปกดบีบสิวจนแตกก็อาจเกิดการติดเชื้อใต้ผิวหนังจนทำให้เกิดรอยด่างดำได้
  • การบาดเจ็บ แผลเล็ก ๆ จากการโดนข่วนหรือโดนบาดอาจทำให้สีผิวบริเวณนั้นเปลี่ยนเป็นจุดหรือรอยคล้ำ เพราะในบางครั้งร่างกายอาจตอบสนองต่ออาการบาดเจ็บมากเกินไป จนกระทบต่อการเพิ่มเม็ดสีผิวหรือเมลานินในเนื้อเยื่อ
  • การโกนหรือแว็กซ์ขน การกำจัดขนขาด้วยการโกนหรือแว็กซ์อาจทำให้ผิวหนังบริเวณดังกล่าวอักเสบจนเกิดขนคุดขึ้น ซึ่งในบางครั้งอาจเป็นปัญหาเรื้อรังและเกิดภาวะแทรกซ้อนอย่างการติดเชื้อหรือแผลเป็นได้
  • ผิวหนังอักเสบ ภาวะผิวหนังอักเสบอาจทำให้ผิวแห้ง หยาบกร้าน และรู้สึกคันมาก ซึ่งหากเผลอเกาตอนกลางคืนหรือตอนนอน ก็อาจทำให้เป็นแผลและมีเลือดออกจนเกิดเป็นรอยคล้ำหรือแผลเป็นหลังจากอาการหายดีแล้ว
  • แดด แสงแดดมีรังสี UV ที่ทำให้ร่างกายผลิตเม็ดสีเมลานินจำนวนมาก ซึ่งอาจทำให้จุดด่างดำหรือรอยต่าง ๆ ยิ่งคล้ำหรือชัดเจนขึ้นเมื่อตากแดดหรืออยู่กลางแจ้งเป็นเวลานาน

ปัญหาขาลาย จัดการอย่างไร ?

แม้หลายคนอาจเคยได้ยินความเชื่อที่ว่า ปัญหา ขาลาย จัดการได้ด้วยการทายาสีฟันตามจุดด่างดำหรือรอยคล้ำต่าง ๆ แต่วิธีดังกล่าวเป็นความเชื่อที่ผิด เนื่องจากยาสีฟันไม่ได้ช่วยให้รอยคล้ำจางลงได้ แต่อาจส่งผลเสียต่อผิวหนัง ทำให้เกิดการระคายเคือง ผิวแห้ง แสบร้อน เป็นสิว หรือปัญหาอื่น ๆ ตามมา

ซึ่งวิธีจัดการกับ ปัญหาขาลาย ที่ปลอดภัยแบ่งออกเป็น 2 ระยะ ดังนี้

ระยะแรก เป็นการรักษาเพื่อบรรเทาอาการต่าง ๆ ที่เป็นสาเหตุให้ ขาลาย ในภายหลัง เช่น อาการคัน ยุงกัด หรือ ผิวหนังอักเสบ เป็นต้น ซึ่งวิธีดูแลรอยดังกล่าว ได้แก่

  1. ประคบน้ำแข็ง เมื่อยุงกัด แมลงต่อย หรือผิวหนังอักเสบจนเกิดอาการคัน ให้นำน้ำแข็งไปประคบบริเวณดังกล่าวเพื่อช่วยบรรเทา อาการคัน
  2. ประคบด้วยถุงชา เพราะชามีฤทธิ์ลดอาการบวมและอักเสบได้ โดยการนำถุงชาดำหรือ ชาเขียว ไปชุบน้ำให้ชุ่มแล้ว แช่แข็ง ก่อนนำมาประคบตามบริเวณต่าง ๆ
  3. เช็ดด้วยแอลกอฮอล์ล้างแผล การเช็ด แอลกอฮอล์ บริเวณที่ถูกยุงกัดอาจช่วยลดอาการคันที่ทำให้ขาลายได้ แต่ควรใช้แอลกอฮอล์แต่พอดี เพราะหากใช้มากเกินไป ผิวจะแห้ง และระคายเคือง sa gaming
  4. นวดด้วยใบโหระพา เพราะใบโหระพามีสารประกอบที่ช่วยบรรเทาอาการคัน ซึ่งอาจทำได้โดยการสับใบโหระพาสดไปนวดบริเวณรอยคล้ำ หรือต้มใบโหระพาแห้งประมาณ 14 กรัม กับน้ำ 2 ถ้วย ทิ้งไว้ให้เย็น ก่อนนำผ้าขนหนูมาชุบ แล้วนำไปทาบริเวณดังกล่าวก็ได้เช่นกัน
  5. ทาน้ำผึ้ง เพราะน้ำผึ้งมีสรรพคุณในการฆ่าเชื้อ ต้าน แบคทีเรีย และต้านการอักเสบ จึงอาจช่วยป้องกันการติดเชื้อและช่วยสมานแผลได้ แต่ไม่ควรทาน้ำผึ้งนอกบ้านหรือในบริเวณที่ยุงชุม เพราะน้ำผึ้งอาจดึงดูดยุงให้มากัดมากขึ้นได้
  6. ทาว่านหางจระเข้ โดยการนำเนื้อ ว่านหางจระเข้ สดมาประคบบริเวณแผลบนขาได้โดยตรง เนื่องจากว่านหางจระเข้ก็มีฤทธิ์ต้านกา อักเสบ ช่วยสมานแผล และบรรเทาการติดเชื้อได้เช่นกัน อีกทั้งความเย็นของว่านหางจระเข้ก็อาจช่วยลดอาการคันจากผิวหนังอักเสบ และลดอาการแสบร้อนจากการโกนขนได้ด้วย
  7. ทาด้วยกระเทียมสับ เพราะกระเทียมอาจมีฤทธิ์ช่วยรักษาแผลและ ต้านไวรัส โดยการนำกระเทียมสับไปผสมกับน้ำมันมะพร้าวก่อนทาบริเวณดังกล่าว 2-3 นาที แต่ไม่ควรใช้กระเทียมสดสับแล้วทาโดยตรง เพราะอาจทำให้ผิวหนังอักเสบและระคายเคืองได้
  8. ทาผลิตภัณฑ์ให้ความชุ่มชื้น ที่มีส่วนผสมของยาลิโดเคน ยาเบนโซเคน เมนทอล และ สะระแหน่ เพื่อบรรเทาอาการคันและปวดชั่วคราว สล็อตออนไลน์
  9. ใช้ยาต้านฮีสตามีน ทั้งชนิดรับประทานและชนิดทาที่หาซื้อได้โดยไม่ต้องใช้ใบสั่งแพทย์ เพื่อลดอาการอักเสบ อาการบวม และอาการคันที่เกิดขึ้น
  10. ใช้ยาทาคอร์ติโคสเตียรอยด์ หากผิวหนังอักเสบจนทำให้คันมาก และกังวลว่าผิวจะดำคล้ำ ควรไปปรึกษาแพทย์ใช้ยาทาคอร์ติโคสเตียรอยด์ เพื่อลดอาการอักเสบและการระคาายเคืองที่ผิวหนัง แต่ควรหลีกเลี่ยงการใช้ยากับแผลเปิดหรือใช้บนใบหน้า และไม่ควรใช้ติดต่อกันนาน เพราะอาจมีผลข้างเคียงให้ผิวบาง ขนดก และเป็นสิวได้ แทงบอลออนไลน์ ที่นี่ ufabet

ระยะหลัง เป็นการรักษาเพื่อให้รอยดำคล้ำจางลง หรือเพื่อดูแลไม่ให้รอยดำคล้ำมากขึ้น ซึ่งอาจรักษาได้ด้วยวิธีดังต่อไปนี้

  1. สครับผิว การสครับหรือ ขัดผิว อาจช่วยลดการเกิดปัญหาขนคุดซึ่งเป็นสาเหตุหนึ่งของ ปัญหาขาลาย โดยเป็นการขจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้ว ฝุ่น หรือสิ่งสกปรกต่าง ๆ ที่ติดค้างอยู่ในรูขุมขนออกไป เพื่อให้สภาพผิวหนังดีขึ้น และอาจเลือกใช้ผลิตภัณฑ์สครับผิวที่มี AHA อ่อน ๆ เพื่อช่วยผลัดเซลล์ผิว ลบเลือนรอยดำคล้ำ และเพิ่มความกระจ่างใสให้ผิวหนัง ทั้งนี้ ไม่ควรถูหรือขัดผิวแรงเกินไป เพราะอาจทำให้ผิวได้รับความเสียหาย จนส่งผลให้ผิวไวต่อรังสี UV และเกิดเป็นรอยดำคล้ำได้
  2. ใช้ครีมกันแดด โดยเลือกใช้ครีมกันแดดที่มีค่า SPF ตั้งแต่ 15 ขึ้นไป เพื่อป้องกันรอยดำคล้ำต่าง ๆ มีสีเข้มมากขึ้น

อย่างไรก็ตาม วิธีต่าง ๆ ในการรับมือปัญหาขาลายที่ทำได้ด้วยตนเองที่บ้านจากวัตถุดิบธรรมชาติอาจเห็นผลช้า รอยคล้ำต่าง ๆ อาจไม่หายสนิทในเร็ววันหรือทันที และอาจต้องใช้เวลานานกว่า 6-12 เดือน ซึ่งหากรักษาขาลายด้วยวิธีข้างต้นไม่ได้ผล หรือขาลายมากจนส่งผลเสียต่อภาพลักษณ์และความมั่นใจ ก็อาจไปพบแพทย์เพื่อรับการรักษาและปรับสภาพสีผิวด้วยวิธีอื่น ๆ เพิ่มเติม เช่น

  • การใช้ผลิตภัณฑ์ปรับผิวขาว หรือครีมทาผิวต่าง ๆ ที่มีสารปรับสภาพผิว เช่น ไฮโดรควิโนน (Hydroquinone) เตรติโนอิน (Tretinoin) คอร์ติโคสเตียรอยด์ (Corticosteroid) กรดไกลโคลิก (Glycolic Acid) และกรดอะซีลาอิก (Azelaic Acid) เป็นต้น ซึ่งแพทย์อาจให้ใช้ครีมเหล่านี้ร่วมกับการลอกผิวด้วยสารเคมี และใช้ครีมกันแดดที่เหมาะสมตามดุลยพินิจของแพทย์
  • การเลเซอร์ เป็นเทคโนโลยีความงามที่ช่วยปรับรอยดำคล้ำหรือจุดด่างดำต่าง ๆ บนขาให้ดูจางลง โดยการยิงแสงเลเซอร์ไปบนผิวหนังเพื่อทำลายผิวชั้นหนังกำพร้าด้านบนสุดและทำลายเซลล์ที่ผลิตเม็ดสีผิว ซึ่งเมื่อสีผิวตามรอยต่าง ๆ จางลง ปัญหาขาลายก็จะไม่เด่นชัด สีผิวบริเวณขาก็อาจดูเรียบเนียนเสมอกัน แต่การทำเลเซอร์อาจช่วยปรับสีผิวได้เพียงชั่วคราวเท่านั้น   
  • การลอกผิวด้วยสารเคมี เพื่อปรับสภาพผิวบริเวณขาให้ดูกระจ่างใส ลดรอยคล้ำ หรือจุดด่างดำต่าง ๆ ตามขา รักษาปัญหาสิว บางชนิด และเจือจาง รอยแผลเป็น ต่าง ๆ แต่การ ลอกผิว อาจทำให้ผิวไวต่อแสงแดดมากขึ้น จึงควรใช้ครีมกันแดดเป็นประจำและปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัดเสมอ

Cr : PG SLOT / LIVE22 / JOKER 356 / eSport / sport dino / health