
ออกกำลังกาย มากเกินไปส่งผลอย่างไร
ออกกำลังกาย มากเกินไปส่งผลอย่างไร การออกกำลังกายเป็นสิ่งที่ดี ออกน้อยไปร่างกายก็ไม่แข็งแรง แต่เรื่องออกกำลังมากไปไม่ค่อยมีใครพูดถึง และก็ยังไม่มีคำจำกัดความ การออกกำลังกายมาก หรือน้อยเป็นเรื่องของแต่ละบุคคล ว่าจะมีร่างกายที่แข็งแรงมากน้อยแค่ไหน ออกกำลังแต่ละครั้งหนักมากน้อยแค่ไหน นานแค่ไหน และที่สำคัญคือมีเวลาพักให้กล้ามเนื้อคลายตัวหรือไม่ นักกีฬาทั่วไปมักจะคิดว่าซ้อมให้มากๆ และหนักๆ และนานๆจะทำให้ร่างกายแข็งแรงและชนะการแข่งขัน แต่ความจริงอาจจะไม่เป็นเช่นนั้นก็ได้

อาการของการออกกำลังมากไปมีอะไรบ้าง
- อาการแรกคืออาการอ่อนล้าของร่างกาย หากท่านมีอาการนี้ ให้ลดความหนักและระยะเวลาลงบ้าง อาการจะค่อยๆดีขึ้น หากท่านยังออกกำลังกายหนักเหมือนเดิมจะมีอาการ
- เครียด
- หงุดหงิดง่าย
- เบื่ออาหาร
- นอนไม่หลับ
- ความต้องการทางเพศลดลง
- ปวดกล้ามเนื้อ
- ความสามารถออกกำลังลดลง
หากเป็นมากจะมีอาการ
- ซึมเศร้า
- ประจำเดือนผิดปกติ
- นอนไม่หลับ
- ปวดกล้ามเนื้อ
- ความสามารถในการเล่นกีฬาลดลง
- ปัจจัยเสี่ยงของการออกกำลังมากไปได้แก่
แบ่งเป็นปัจจัยภายในตัวเองทั้งร่างกายและจิตใจ
- สภาพร่างกายไม่สมบูรณ์
- เจ็บป่วยหรือผ่าตัด
- อารมณ์เปลี่ยนแปลง
- เจ้าอารมณ์
- เครียดง่ายขึ้น
- ประจำเดือนผิดปกติ
- ปัจจัยภายนอกได้แก่
ออกกำลังมากไป เช่น หนักมากไป นานไป หรือถี่เกินไป
- มีการเปลี่ยนวิธีการฝึก
- สิ่งแวดล้อมเปลี่ยน เช่น เปลี่ยนเวลา สถานที่ อุณหภูมิ
- การรับประทานอาหาร
- การพักผ่อนไม่เพียงพอ
- ดื่มสุรา กาแฟ หรือได้รับสารกระตุ้น
- การป้องกัน
ที่สำคัญจะต้องฟังสัญญาณของร่างกาย หากพบว่าอ่อนเพลียแทนที่จะสดชื่นก็ควรจะลดการออกกำลังกาย การพักผ่อนที่เพียงพอทั้งร่างกายและจิตใจ อาหารที่ครบทุกหมู่
จะรู้ได้อย่างไรว่าออกกำลังมากไป
- ถ้าขณะออกกำลังกายท่านเหนื่อยมากจนหายใจไม่ทัน หรือเป็นลม แสดงว่าท่านออกกำลังมากไป
- ขณะออกกำลังกายเหนื่อยจนพูดไม่ได้
- พัก 10 นาทีแล้วยังไม่หายเหนื่อย
หากมีอาการดังกล่าวแสดงว่าออกกำลังมากไปท่านต้องปรับการออกกำลังกายให้เหมาะสม แทงบอลออนไลน์ ที่นี่ ufastar356
การบำรุงสมอง ไม่จำเป็นต้องพึ่งยา!! การออกกำลังกายก็สามารถช่วยได้

คงไม่จำเป็นต้องบอกใช่มั้ยคะว่า การเข้ายิม หรือการออกกำลังกายมอบประโยชน์ให้กับเรามากมายจนนับไม่ถ้วนทั้งภายนอกและภายใน แต่ในตอนนี้เรามีอีกหนึ่งประโยชน์ที่จะนำมาบอกให้คุณรู้ การออกกำลังกายทำให้สมองของคุณขยาย หรือเติบโตมากขึ้น ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อค่ะ เนื่องจากนักวิจัยได้ค้นพบว่า การออกกำลังกายนั้นนอกจากจะเสริมสร้างกล้ามเนื้อแล้วยังช่วยเสริมสร้างความคิดและจิตใจของคุณให้เข้มแข็ง
จากข้อมูลของ the landmark Framingham Heart Study และนักวิจัยจาก University of California-Los Angeles ค้นพบความสัมพันธ์ระหว่างคนที่ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอกับขนาดของสมองตามอายุของพวกเขา โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ทีมนักวิจัย ได้พบว่า ส่วนของสมองที่
ชื่อ ฮิปโปแคมพัส ซึ่งมีหน้าที่ในการจัดการกับอารมณ์และความจำ มีการขยายขนาดที่ใหญ่ขึ้น และมีความกระตือรือร้นในการออกกำลังกาย นอกจากนี้นักวิจัยยังค้นพบว่าสมองส่วนดังกล่าวนี้มีแนวโน้มบาดเจ็บน้อยลงจากการสูญเสียความจำ หรือโรคอัลไซเมอร์ในขณะที่มนุษย์มีอายุมากขึ้น สล็อต
ในวารสาร Journals of Gerontology Series A: Biological Sciences and Medical Sciences ได้ตีพิมพ์ผลลัพธ์เกี่ยวกับคนที่ออกกำลังกายทุกชนิด ไม่ว่าจะเป็น การเดิน การยกน้ำหนัก หรือการเข้ายิม พวกเขามีความสามารถในการจดจำต่อสิ่งที่ได้เรียนรู้ และสามารถระลึกถึงอารมณ์ได้ดีกว่ามนุษย์ประเภทที่ชอบนั่งอืดอยู่บนโซฟาอย่างแน่นอน
แม้ในวารสารดังกล่าวจะสำรวจจากกลุ่มผู้สูงอายุ ที่มีอายุมากกว่า 60 ปี ทีมนักวิจัยยังได้เสริมอีกว่าการออกกำลังกายล้วนสร้างสิ่งเกี่ยวข้องอย่างใดอย่างหนึ่งให้กับสุขภาพของคนทุกเพศทุกวัย ซึ่งนั่นก็แปลว่า หากคุณต้องการปกป้องและพัฒนาสมองของคุณให้ทำงานได้ดีแล้วล่ะก็ จงออกไปหากิจกรรมที่ทำให้คุณเสียเหงื่อกันเถอะ!
การลดน้ำหนัก ด้วยการรับประทานอาหารตามกลุ่มเลือด

เทรนด์ลดน้ำหนักตอนนี้กำลังมาแรงเพราะคนเริ่มหันมาดูแลเอาใจใส่ตัวเองมากขึ้น แต่ยังมีใครหลาย ๆ คนยังไม่เคยทราบเลยว่าหากเราทานอาหารตามกลุ่มเลือดตัวเองอย่างถูกต้อง จะทำให้ร่างกายมีความสมดุลมากยิ่งขึ้นรวมไปถึงน้ำหนักที่จะลดลงด้วยในอนาคต ดังนั้นกลุ่มเลือดไหนควรทานอะไร ? ควรเล่นกีฬาประเภทไหน ? มาดูกันครับ แทงบอลออนไลน์ ที่นี่ ufastar356
เริ่มที่กลุ่มเลือด O :
คนที่อยู่ในกลุ่มเลือดโอเค้าว่ากันว่าจะมีกรดในกระเพาะอาหารที่สูง จะทำให้สามารถย่อยอาหารจำพวกเนื้อสัตว์ได้ดี แต่อย่างไรก็ตามไม่ควรที่จะรับประทานอาหารจำพวกแป้งมากจนเกินไป เพราะเป็นสิ่งที่ย่อยยากมาสำหรับคนในกลุ่มเลือดนี้ และอาจจะทำให้กลายเป็นพลังงานสะสมก่อนที่ร่างกายจะเปลี่ยนแป้งให้เป็นน้ำตาลและก่อให้เกิดโรคอ้วนและเบาหวานในที่สุด
สิ่งที่ควรรับประทานและการออกกำลังกาย :
กลุ่มเลือดนี้ควรรับประทานอาหารพวกเนื้อสัตว์ สาหร่ายเคลป์ เกลือไอโอดีน อาหารทะเล ตับ บรอกโคลี ผักโขม และควรออกกำลังกายในรูปแบบที่ต้องใช้แรงและความเร็วเช่น การเต้นแอโรบิก ปั่นจักรยานและยกน้ำหนักเป็นต้น
กลุ่มเลือด A :
คนที่อยู่ในกลุ่มเลือดเอเค้าว่ากันว่าควรเน้นทานผักและผลไม้ และไม่ควรรับประทานอาหารจำพวกเนื้อสัตว์และแป้งมากจนเกิน เพราะจะทำให้อ้วนง่ายเหมือนกับกลุ่มเลือด O นั่นเอง คนที่อยู่ในกลุ่มเลือดนี้ห้ามอดหรืองดอาหารเป็นอันขาดเนื่องจากจะทำให้ระบบการเผาผลาญประสบปัญหาส่งผลให้การลดน้ำหนักกระทำได้ยากกว่าเดิม
การออกกำลังกายของคนกลุ่มเลือดนี้ :
คนที่อยู่ในกลุ่มเลือดนี้ควรที่จะออกกำลังกายที่ใช้พลังงานไม่หนักมากจนไปหรือการออกกำลังกายแบบช้า ๆ นั่นเอง เช่น การเล่นโยคะ การทำสมาธิ กอล์ฟ และการเต้นรำเป็นต้น ซึ่งการออกกำลังกายจะช่วยแก้ปัญหาหลักของคนในกลุ่มเลือดนี้ได้อย่างดีที่สุด โดยเฉพาะในเรื่องของความเครียด เป็นต้น
กลุ่มเลือด B :
คนที่อยู่ในกลุ่มเลือดบีถือได้ว่าเป็นกลุ่มเลือดที่มีระบบย่อยอาหารที่สมดุลกล่าวง่าย ๆ ได้เลยว่า คนกลุ่มเลือดบีสามารถที่จะรับประทานอาหารที่หลากหลาย แต่ก็ไม่ควรที่จะเน้นอาหารจำพวกสัตว์ปีกทั้งหลายเช่น เนื้อไก่เป็นต้น เพราะจะทำให้ไปรบกวนระบบการเผาผลาญในร่างกายของเรานั่นเอง
สิ่งที่ควรรับประทานและการออกกำลังกาย :
คนในกลุ่มเลือดนี้ควรทานอาหารให้ครบ 5 หมู่เพราะจะทำให้ร่างกายมีความสมดุลและอายุยืนยาว และถ้าหากเราต้องลดความอ้วนหรือน้ำหนักควรเน้นที่ สับปะรดจะช่วยได้ดี ในด้านการออกกำลังกายควรเน้นในด้านการออกกำลังกายที่ใช้แรงอยู่ในระดับปานกลางเช่น การปั่นจักรยาน เดินทางไกล เป็นต้น
คนกลุ่มเลือด AB :
คนในกลุ่มเลือดเอบีเค้าว่ากันว่าเป็นคนที่มีลักษณะผสมระหว่างกลุ่มเลือด A และ B จึงมีข้อได้เปรียบคือมีกรดในกระเพาะอาหารน้อยเหมือนกลุ่มเลือด A และทานเนื้อสัตว์ได้เหมือนกลุ่มเลือด B แต่ต้องทานในระดับที่พอเหมาะพอควรทั้งนี้ไม่ควรดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์และคาเฟอีนเช่น ชา กาแฟ หรือน้ำอัดลมเป็นต้น
สิ่งที่ควรรับประทานและการออกกำลังกาย :
คนในกลุ่มเลือดเอบีควรเลือกรับประทานอาหารที่เป็นอาหารทะเล ถั่วเหลือง และผัก เพื่อกระตุ้นในด้านการเผาผลาญไขมัน ในด้านการออกกำลังกายควรที่จะใช้วิธีผสมผสานระหว่างกลุ่มเลือด A และ B กล่าวคือ การออกกำลังกายแบบไม่ต้องใช้แรงมากสลับกับใช้แรงปานกลางเป็นต้น อาทิเช่น การเล่นโยคะ เต้นแอโรบิค ปีนเขา เต้นรำและว่ายน้ำเป็นต้น
นี่ก็เป็นอีกวิธีหนึ่งที่จะทำให้ร่างกายของเรามีสุขภาพแข็งแรงอีกด้วย เนื่องจากการรับประทานอาหารในแต่ละวันของคนเรามักจะไม่เลือก และทานทุกอย่างจนลืมไปว่าร่างกายกำลังต้องการสารอาหารประเภทไหน
การลดหน้าท้อง โยคะสามารถช่วยได้
การออกกำลังกายเพื่อลดไขมันบริเวณหน้าท้องของเรามีให้เลือกด้วยกันหลากหลายวิธีอาทิเช่น การว่ายน้ำ, การวิ่ง, การปั่นจักรยานและอื่น ๆ อีกมากมาย และการออกกำลังกายที่กำลังได้รับความนิยม ณ ตอนนี้คือ การเล่นโยคะ เพราะนอกจากจะเป็นการออกกำลังกายไปในตัวแล้ว ยังทำหน้าที่ในการสร้างสมาธิได้อีกด้วยเพราะเราต้องกำหนดลมหายใจเข้าและออกอย่างถูกวิธีนั่นเอง

โยคะเป็นกีฬาที่เพิ่งได้รับความนิยมเมื่อไม่นานมานี้ และด้วยวิธีการเล่นที่ค่อนข้างอันตรายแต่แฝงไปด้วยธรรมะกลับได้รับความนิยมสูงขึ้นเรื่อย ๆ ปัจจุบันโยคะมีให้เลือกเล่นอยู่หลายรูปแบบทั้ง โยคะร้อน, โยคะเย็นหรือล่าสุดอย่าง โยคะ ฟลายเป็นต้น สำหรับโยคะท่าไหนบ้างที่จะทำให้หน้าท้องของเราหายไปมาดูกัน
1 ยืดขาตรง
ท่าแรกนี้ให้นอนลงบนพื้นเสื่อโยคะ แล้วค่อย ๆ หนีบหนังสือสักเล่มเอาไว้ตรงระหว่างขาด้านใน ต่อจากนั้นจึงค่อย ๆ ยกขาขึ้นให้เท้าชี้ขึ้นเพดาน โดยข้อห้ามสำคัญคือ ห้ามงอเข่าหรือทำให้หนังสือหล่นลงมาเด็ดและหลังต้องแนบสนิทกับเสื่อ ทำค้างไว้สักพักแล้วค่อย ๆ เอาลง และยกขึ้นใหม่อีกครั้ง ทำซ้ำไปเรื่อย ๆ เป็นประจำทุกวัน เห็นผลแน่นอน
2 ท่าตั๊กแตน
ท่าที่สองนี้เริ่มจากการนอนคว่ำหน้าลงบนเสื่อโยคะ ในขณะที่แขนทั้งสองข้างวางอยู่ข้างลำตัวพร้อมกับเหยียดขาตรงชิดติดกัน จากนั้นจึงค่อย ๆ ยกแขนและขาขึ้น รวมทั้งศีรษะด้วย โดยปล่อยให้ส่วนลำตัวคิดกับเสื่อไว้ และแช่ไว้สักพักจากนั้นจึงค่อย ๆ ผ่อนคลายอริยาบถแล้วทำซ้ำท่าเดิมไปเรื่อย ๆ เป็นประจำทุกวัน หน้าท้องก็จะเริ่มเข้าที่เข้าทาง
3 ยืดตัวไปด้านข้าง
ท่าที่สามเราต้องยืนตัวตั้งตรงและยกขาออกประมาณการให้พอกับไหล่ของตัวเอง จากนั้นให้ชูมือขึ้นเหนือศีรษะ โดยจะเริ่มจากข้างไหนก็ได้แล้วค่อย ๆ เอนตัวไปฝ่ายตรงข้ามให้มากที่สุดเท่าที่เราจะทำได้ แช่สักครู่แล้วค่อย ๆ สลับกลับมาอีกข้างหนึ่ง ทำสลับกันไปมาเรื่อย ๆ โดยท่านี้จะใช้ไขมันตรงส่วนหน้าท้องได้เป็นอย่างดี
4 ท่าสะพานโค้ง
ท่าที่สี่เริ่มต้นด้วยการนอนหงายบนเสื่อโยคะจากนั้นให้งอเข่าและแยกขาออกกันจาก แล้วค่อย ๆ ยกช่วงขึ้นค้างเอาไว้ ลักษณะจะคล้ายท่าตั๊กแตนเพียงแต่เอาตัวขึ้นเท่านั้น แช่ไว้สักครู่ แล้วค่อย ๆ ลดลงแล้วทำซ้ำไปซ้ำมาหลาย ๆ รอบ ท่านี้เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการฟิตกล้ามหน้าท้องและลดไขมันช่วงหน้าท้องให้หมดไป
5 ท่ากงล้อ
ท่าสุดท้ายให้เริ่มต้นด้วยการนอนหงายบนเสื่อโยคะ จากนั้นให้งอเข่าตั้งขึ้นโดยให้ขาทั้งสองแยกออกจากกันเพียงเล็กน้อย ต่อด้วยการยกศอกตั้งขึ้นในขณะที่ฝ่ามือคว่ำหน้าอยู่ข้างศีรษะ สุดท้ายให้ใช้ทั้งแขนและขายกตัวให้ลอยโก้งโค้งขึ้น ค้างไว้สักพักแล้วค่อย ๆ คลาย และทำซ้ำไปมา เหมือนท่าอื่น ๆ
อย่างไรก็ตามการเล่นโยคะหากเป็นมือใหม่หรือเพิ่งหัด ควรที่จะเล่นท่าง่าย ๆ หรือไม่ก็เลือกใช้บริการการเรียนโยคะจากโรงเรียนสอนที่มีให้เลือกอย่างหลากหลาย ณ ตอนนี้ เพราะนอกจากจะได้เรียนกับผู้เชี่ยวชาญแล้วยังสามารถที่ป้องกันตัวเราจากอันตรายได้อีกด้วย
ติดตามเรื่องราวใหม่ๆได้ที่: pgslotgame , live22 , slotxo