
อันตรายของ “โรคอ้วน”
อันตรายของ “โรคอ้วน” การกินอาหาร ที่ดีมีประโยชน์นั้น เป็นปัจจัยสำคัญ ที่ทำให้เรามีสุขภาพดี แต่หากได้รับ ปริมาณอาหาร มากเกินความจำเป็น ของร่างกาย ก็จะเกิดการสะสมไขมัน ตามส่วนต่างๆ และทำให้คุณกลายเป็น “โรคอ้วน” ซึ่งองค์การอนามัยโลก ได้ให้นิยาม ของโรคอ้วนไว้ว่า
“ ภาวะที่ร่างกายมีการสะสมไขมันส่วนต่างๆ ของร่างกายเกินปกติ จนเป็นปัจจัยเสี่ยงหรือเป็นสาเหตุให้เกิดโรคต่างๆ
ที่ส่งผลถึงสุขภาพ จนอาจเป็นสาเหตุให้เสียชีวิตได้ ”
ปัจจุบัน คนอ้วนถือเป็น ภาวะของการเป็น “โรค” เพราะความอ้วน ส่งผลให้สุขภาพ โดยรวมไม่แข็งแรง ส่งผลต่อ สมรรถนะ ในการทำงาน
การใช้ชีวิต บางคนอ้วนมากจนช่วยเหลือตัวเองได้น้อย เคลื่อนตัวไปไหนมาไหนลำบาก หรือบางคนอ้วน มากจนขยับตัวไม่ได้เลย
เมื่อเราเริ่มอ้วน ก็จะมีความเสี่ยง ที่จะเป็นโรคต่างๆ อาทิ เบาหวาน ความดันโลหิตสูง ข้อเข่าเสื่อม โรคตับ นิ่วในถุงน้ำดี นิ่วในไต โรคหลอดเลือดสมอง โรคหลอดเลือดหัวใจ โรคไขมันในเลือดสูง มีปัญหา ในการหายใจ มักเป็นโรคนอนหลับแล้ว หยุดหายใจ อีกทั้งยังเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งหลายโรค
เช่น มะเร็งเต้านม มะเร็งลำไส้ใหญ่ มะเร็งหลอดอาหาร และมะเร็งกระเพาะอาหาร
การที่จะรู้ว่าเราอ้วน หรือ ไม่นั้น สามารถ คิดจากสูตรคำนวณดัชนีมวลกาย
[BMI = น้ำหนักตัว (กิโลกรัม) หารด้วยส่วนสูง (หน่วยเป็นเมตร) ยกกำลังสอง]
ค่าดัชนี มวลกายที่ เหมาะสมคือ 18.50-22.99 หากอยู่ระหว่าง 23.00-24.90 จัดว่าเป็นคนท้วม และหากเกิน 25 ขึ้นไปก็จัดว่า คุณเป็นคนอ้วน แทงบอลออนไลน์ ที่นี่ ufabet 7777
จากการสำรวจ ข้อมูล พบว่ามีคนอ้วน เป็นจำนวนมากถึง 16 ล้านคน เป็นหญิง มากกว่า ชายถึง 2 เท่าตัว (ข้อมูลปี 2557) ซึ่งค่าเฉลี่ยความอ้วน ของคนไทยอยู่ในลำดับที่ 2 รองจากประเทศมาเลเซีย ซึ่งนับเป็นปัญหาใหญ่ ปัญหาหนึ่งของ ประเทศเลยทีเดียว ปัจจุบัน ภาวะอ้วน เป็นปัญหาที่เกิดขึ้นทั่วโลก มีคนอ้วน ทั่วโลกเกือบพันล้านคน เลยทีเดียว
สาเหตุของความอ้วน มีดังนี้ คือ
- การกินอาหาร มากเกินความต้องการ ของร่างกาย ทำให้เกิด การสะสมพลังงาน มีไขมันสูง ตามร่างกาย ทั้งในเส้นเลือด ช่องท้อง อีกทั้ง รูปแบบการดำเนินชีวิต ของคนในยุคปัจจุบัน ที่ใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่ กับโต๊ะทำงาน ร่างกายไม่ค่อยได้เคลื่อนไหว หรือออกกำลังกาย พลังงานในแต่ละวันที่เหลือ จึงแปรเปลี่ยนเป็น ไขมันสะสม ทำให้น้ำหนักเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนกลายเป็น โรคอ้วน
- การเป็นโรคไทรอยด์ ต่อมไทรอยด์ทำงานต่ำ ทำให้ ระบบเผาผลาญ ของร่างกายทำงานน้อยลง การมีโรคประจำตัว ทำให้ร่างกายไม่สามารถเคลื่อนไหวได้ ซึ่งสาเหตุเหล่านี้ พบเป็นส่วนน้อยที่ทำให้เป็น โรคอ้วน
ลดความอ้วนอย่างไรดี
- ความอ้วน เป็นสาเหตุของ โรคต่างๆ มากมาย ดังนั้น ถ้าเราลดความอ้วนได้ ก็จะช่วยลดความเสี่ยง ต่อการเป็นโรคต่างๆ ด้วย เช่น ถ้าน้ำหนักตัวเราอยู่ใน เกณฑ์ที่เหมาะสม จะไม่มีอาการปวดเข่า ข้อเข่าเสื่อม เพราะร่างกายสามารถ รับน้ำหนักตัวได้
- การลดความอ้วนง่ายๆ คือจะต้อง ควบคุมปริมาณอาหาร ในแต่ละมื้อ ใน 1 วันควรได้รับ พลังงาน ไม่เกิน 1,200 กิโลแคลอรี โดยควรกินอาหารให้ครบ 5 หมู่ และคำนวณ แคลอรี ที่ร่างกายได้รับให้ พอดี นั่นคือ กินข้าวไม่เกินมื้อละ 1 ทัพพี โปรตีนควรได้รับ 6 ช้อนโต๊ะหรือ 1 ขีดต่อมื้อ ซึ่งควรเลือกกินเนื้ออกไก่ เนื้อปลา ไข่ขาว เนื้อหมูไม่ติดมัน และ งดกินเนื้อที่มีไขมันแทรก
กินอาหาร ที่พลังงานต่ำ ได้แก่ อาหารต้มๆ นึ่งๆ ผักสดต่างๆ เนื้อสัตว์ไขมันต่ำ ผลไม้สดก็กินในปริมาณที่พอดี งดกินของมัน ของทอด ของขบเคี้ยว ขนมหวานต่างๆ ไม่ควรกินผลไม้แปรรูปอย่างมะม่วงแช่อิ่ม มะม่วงกวน เพราะจะได้รับความหวานที่มากเกินไป นอกจากนี้ควรงดดื่มน้ำหวานและ กาแฟ
การออกกำลังกาย เป็นสิ่งที่ต้องทำควบคู่ไปกับการควบคุมอาหาร เพื่อให้ร่างกายได้เผาผลาญพลังงานมากขึ้น โดยควรออกกำลังกายอย่างน้อย 30 นาทีขึ้นไป และออกอย่างสม่ำเสมอเป็นเวลา 150 นาทีต่อสัปดาห์ จึงจะมีการเผาผลาญพลังงานในร่างกาย
คนที่น้ำหนักตัวมากไม่ควรออกกำลังกายด้วยการวิ่ง เพราะจะส่งผลต่อข้อเข่า ควรใช้การปั่นจักรยานแทน ซึ่งการออกกำลังกายที่เหมาะสมกับคนอ้วนมากที่สุดคือการว่ายน้ำ เพราะน้ำจะช่วยพยุงร่างกาย สามารถเผาผลาญพลังงานได้มาก และไม่มีผลเสียต่อข้อเข่า
ส่วนคนที่ไม่สะดวกหรือไม่มีสถานที่ออกกำลังกาย ก็แค่ “แกว่งแขน” วันละ 100 ครั้ง หรือประมาณ 30 นาที การแกว่งแขนสามารถทำได้ง่ายๆ ทำได้ทุกที่ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน หากทำทุกวันจะช่วยลดน้ำหนักได้ทางหนึ่งด้วย
ปรับวิถีชีวิตประจำวัน คนอ้วนที่ไม่มีปัญหาเรื่องข้อเข่า ควรเดินให้มากขึ้น เช่น เดินขึ้นบันไดแทนการใช้ลิฟต์ เดินขึ้นสะพานลอย เดินเข้าซอยบ้านแทนการนั่งรถมอเตอร์ไซค์ เป็นต้น
หากได้ทำตาม 3 ขั้นตอนที่แนะนำมาข้างต้นแล้วยังไม่ได้ผล ในกรณีของคนที่มีน้ำหนักตัวมากและต้องการลดน้ำหนักอย่างจริงจัง ก็สามารถลดความอ้วนด้วยการใช้ยาและการผ่าตัด ซึ่งต้องอยู่ในความดูแลของแพทย์เท่านั้น
การป้องกัน
การกินอาหารให้ครบ 5 หมู่ หลีกเลี่ยงอาหารที่ไม่มีประโยชน์ เช่น ของมัน ของทอดและของหวาน ออกกำลังกายสม่ำเสมอ ควบคุมน้ำหนักตัวให้อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสมและเช็กสุขภาพประจำปี ทุกคนก็สามารถป้องกันโรคอ้วนได้แล้ว
ติดตามเรื่องราวใหม่ๆได้ที่: pgslotgame , live22